ตัวแก้โจทย์เศรษฐศาสตร์

แก้โจทย์เศรษฐศาสตร์ทีละขั้นตอนพร้อมคำอธิบายที่ชัดเจน อัปโหลดรูปภาพโจทย์เศรษฐศาสตร์ของคุณหรือพิมพ์เข้าไป แล้วรับคำตอบที่ถูกต้องทันที เหมาะสำหรับนักเรียนและมืออาชีพที่ต้องการความช่วยเหลือด้านเศรษฐศาสตร์จุลภาค เศรษฐศาสตร์มหภาค กราฟ และการคำนวณ

0/1500
เปิดใช้งานคุณสมบัตินี้เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ชั้นนำของเราเพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น! ขับเคลื่อนโดย GPT-5.
เข้าถึงฟีเจอร์เพิ่มเติมโดยการอัพเกรดแผนของคุณ
  • ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า 10 เท่าด้วย AI ที่ฉลาดขึ้น
  • ตัวเลือกการปรับแต่งเพิ่มเติม
  • การสร้างไม่จำกัด
  • การสร้างที่เร็วขึ้น
อัพเกรด
🚀 ขับเคลื่อนด้วยโมเดล AI ที่ดีที่สุด
🌍 รองรับมากกว่า 40 ภาษา
💳 ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
คะแนน 5 ดาว
ประหยัดเวลาหลายชั่วโมงของคุณ

ใช้ AI เพื่อเร่งการสร้างเนื้อหาของคุณอย่างมาก

เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของเราสามารถสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่ปรับแต่งได้ในไม่กี่วินาที ไม่ใช่ชั่วโมง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณและมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สำคัญจริงๆ

เริ่มต้นได้ง่าย

ข้อความที่สร้างโดย AI

  • ข้อมูลนำเข้า

    See attached files

    ผลลัพธ์

    [Analysis]
    ปัญหานี้เป็นการวิเคราะห์ตารางต้นทุน (Cost) และรายได้ (Revenue) ของกิจการที่ราคาขายลดลงตามปริมาณการผลิต (การแข่งขันแบบผูกขาดหรือผู้ตั้งราคาได้) โดยต้องคำนวณหา

    • ราคาขายแต่ละปริมาณ (P, AR)

    • รายได้รวม (TR) และรายได้เพิ่ม (MR)

    • ต้นทุนคงที่ (TFC), ต้นทุนผันแปร (TVC), ต้นทุนรวม (TC)

    • ต้นทุนเฉลี่ยคงที่ (AFC), ต้นทุนเฉลี่ยผันแปร (AVC), ต้นทุนเฉลี่ยรวม (AC)

    • ต้นทุนเพิ่ม (MC)

    จากนั้นใช้เงื่อนไขการทำกำไรสูงสุดของผู้ผลิต คือ
    MR=MCMR = MC


    [Solution]

    • สร้างโครงตาราง

      ปริมาณ Q = 0, 2, 4, 6, 8, 10
      ราคาขาย P(q) = {–, 10, 9, 8, 7, 6}
      TFC = 10 ตลอดทุก q

    • คำนวณ TVC, TC
      – TVC(q) ได้จากข้อมูลในโจทย์
      TC(q)=TFC+TVC(q)TC(q) = TFC + TVC(q)

    • คำนวณ AFC, AVC, AC
      AFC(q)=TFCqAFC(q) = \frac{TFC}{q}
      AVC(q)=TVC(q)qAVC(q) = \frac{TVC(q)}{q}
      AC(q)=TC(q)qAC(q) = \frac{TC(q)}{q}

    • คำนวณ MC
      MC(qi)=TC(qi)TC(qi1)qiqi1MC(q_i) = \frac{TC(q_i) - TC(q_{i - 1})}{q_i - q_{i - 1}}

    • คำนวณ TR, AR, MR
      TR(q)=P(q)×qTR(q) = P(q)\times q
      AR(q)=TR(q)q=P(q)AR(q) = \frac{TR(q)}{q} = P(q)
      MR(qi)=TR(qi)TR(qi1)qiqi1MR(q_i) = \frac{TR(q_i) - TR(q_{i - 1})}{q_i - q_{i - 1}}

    • นำค่าต่างๆ มาเติมในตาราง ทำซ้ำตั้งแต่ q=2,4,6,8,10 จนครบ

    • หาจุดกำไรสูงสุด
      เปรียบเทียบ MR กับ MC ที่แต่ละ q
      – เมื่อ MR=MCMR = MC และ MR ลดลงหลังจากจุดนั้น → ผลิตปริมาณที่จุดนั้น


    ตัวอย่างการคำนวณตัวอย่างสำคัญ

    • q=2:
      TVC(2)=5 ⇒ TC(2)=10+5=15
      AFC(2)=10/2=5 ; AVC(2)=5/2=2.5 ; AC(2)=15/2=7.5
      TR(2)=10×2=20 ; AR(2)=20/2=10
      MC(2)= (15−10)/(2−0)=5/2=2.5
      MR(2)= (20−0)/(2−0)=10

    • q=4:
      TVC(4)=15 ⇒ TC(4)=10+15=25
      AFC(4)=10/4=2.5 ; AVC(4)=15/4=3.75 ; AC(4)=25/4=6.25
      TR(4)=9×4=36 ; AR(4)=36/4=9
      MC(4)= (25−15)/(4−2)=10/2=5
      MR(4)= (36−20)/(4−2)=16/2=8

    • q=6:
      TVC(6)=27 ⇒ TC(6)=10+27=37
      AFC(6)=10/6≈1.67 ; AVC(6)=27/6=4.5 ; AC(6)=37/6≈6.17
      TR(6)=8×6=48 ; AR(6)=8
      MC(6)= (37−25)/(6−4)=12/2=6
      MR(6)= (48−36)/(6−4)=12/2=6

    • q=8:
      TVC(8)=50 ⇒ TC(8)=60
      AFC(8)=10/8=1.25 ; AVC(8)=50/8=6.25 ; AC(8)=60/8=7.5
      TR(8)=7×8=56 ; AR(8)=7
      MC(8)= (60−37)/(8−6)=23/2=11.5
      MR(8)= (56−48)/(8−6)=8/2=4

    • q=10:
      TVC(10)=59 ⇒ TC(10)=69
      AFC(10)=10/10=1 ; AVC(10)=59/10=5.9 ; AC(10)=6.9
      TR(10)=6×10=60 ; AR(10)=6
      MC(10)= (69−60)/(10−8)=9/2=4.5
      MR(10)= (60−56)/(10−8)=4/2=2

    รวบรวมค่า MR และ MC:

    q | 2 | 4 | 6 | 8 | 10
    ––|–––|–––|–––|–––|–––
    MC | 2.5 | 5 | 6 | 11.5 | 4.5
    MR | 10 | 8 | 6 | 4 | 2

    สุ่มตรวจจุดที่ MR = MC ⇒ q = 6


    [Answer]
    ปริมาณการผลิตที่ทำให้กำไรสูงสุดคือ
    q=6หน่วยq^* = 6 หน่วย
    และกำไรสูงสุด = TR(6) – TC(6) = 48 − 37 =
    11หน่วยเงิน11 หน่วยเงิน

  • ข้อมูลนำเข้า

    See attached files

    ผลลัพธ์

    Analysis
    โจทย์เป็นการกรอกตารางต้นทุนและรายได้ (TFC, TVC, TC, AFC, AVC, AC, MC, TR, AR, MR) แล้วหาเงื่อนไขการผลิตเพื่อให้กำไรสูงสุดโดยใช้หลักการผลิตที่กำไรสูงสุดเมื่อ MR=MC\mathrm{MR} = \mathrm{MC}


    Solution

    • กำหนดค่า TFC\mathrm{TFC}
      จากแถวที่มี TVC=0\mathrm{TVC}=0 และทราบว่า TC=TFC+TVC\mathrm{TC} = \mathrm{TFC} + \mathrm{TVC} เมื่อ Q=2Q = 2 จะได้
      TC=10,;TVC=0;;TFC=10\mathrm{TC} = 10,;\mathrm{TVC}=0;\Longrightarrow;\mathrm{TFC}=10
      ดังนั้นสำหรับทุกแถว TFC=10\mathrm{TFC}=10

    • หาค่า QQ ในแต่ละแถวจาก TR=P×Q\mathrm{TR}=P\times Q

      • แถวที่ 2: 36=9×Q;;Q=436 = 9\times Q|;\Longrightarrow;Q = 4 (ดังนั้น A=4A = 4)

      • แถวที่ 3: 48=8×Q;;Q=648 = 8\times Q|;\Longrightarrow;Q = 6

      • แถวที่ 4: 56=P×8;;P=756 = P\times 8|;\Longrightarrow;P = 7

      • แถวที่ 5: 60=6×Q;;Q=1060 = 6\times Q|;\Longrightarrow;Q = 10

      • แถวที่ 6: 60=5×Q;;Q=1260 = 5\times Q|;\Longrightarrow;Q = 12 (ดังนั้น D=12D = 12)

    • คำนวณ TVC,;TC\mathrm{TVC},;\mathrm{TC}
      แต่ละแถว:

      • แถว 2: TC=15;;TVC=1510=5\mathrm{TC}=15|;\Longrightarrow;\mathrm{TVC}=15 - 10=5

      • แถว 3: ให้ TVC=9;;TC=19\mathrm{TVC}=9|;\Rightarrow;\mathrm{TC}=19

      • แถว 4: ให้ TVC=17;;TC=27\mathrm{TVC}=17|;\Rightarrow;\mathrm{TC}=27

      • แถว 5: ให้ TVC=50;;TC=60\mathrm{TVC}=50|;\Rightarrow;\mathrm{TC}=60

      • แถว 6: ให้ TVC=48;;TC=58\mathrm{TVC}=48|;\Rightarrow;\mathrm{TC}=58

    • คำนวณ AFC,;AVC,;AC\mathrm{AFC},;\mathrm{AVC},;\mathrm{AC}

      • แถว 2:
        AFC=104=2.5,;AVC=54=1.25,;AC=154=3.75\mathrm{AFC}=\frac{10}{4}=2.5,;\mathrm{AVC}=\frac{5}{4}=1.25,;\mathrm{AC}=\frac{15}{4}=3.75

      • แถว 3:
        AFC=1061.67,;AVC=96=1.5,;AC=1963.17\mathrm{AFC}=\frac{10}{6}\approx1.67,;\mathrm{AVC}=\frac{9}{6}=1.5,;\mathrm{AC}=\frac{19}{6}\approx3.17
        ดังนั้น B3.17B\approx3.17

      • แถว 4:
        AFC=108=1.25,;AVC=1782.12,;AC=2783.38\mathrm{AFC}=\frac{10}{8}=1.25,;\mathrm{AVC}=\frac{17}{8}\approx2.12,;\mathrm{AC}=\frac{27}{8}\approx3.38

      • แถว 5:
        AFC=1010=1,;AVC=5010=5,;AC=6010=6\mathrm{AFC}=\frac{10}{10}=1,;\mathrm{AVC}=\frac{50}{10}=5,;\mathrm{AC}=\frac{60}{10}=6

      • แถว 6:
        AFC=10120.83,;AVC=4812=4,;AC=58124.83\mathrm{AFC}=\frac{10}{12}\approx0.83,;\mathrm{AVC}=\frac{48}{12}=4,;\mathrm{AC}=\frac{58}{12}\approx4.83

    • คำนวณ MC\mathrm{MC}
      โดย MC=ΔTC/ΔQ\mathrm{MC} = \Delta\mathrm{TC}/\Delta Q

      • แถว 1→2: (1010)/(20)=0(10 - 10)/(2 - 0)=0

      • แถว 2→3: (1510)/(42)=2.5(15 - 10)/(4 - 2)=2.5

      • แถว 3→4: (1915)/(64)=2(19 - 15)/(6 - 4)=2

      • แถว 4→5: (2719)/(86)=4(27 - 19)/(8 - 6)=4

      • แถว 5→6: (6027)/(108)=16.5(60 - 27)/(10 - 8)=16.5

      • แถว 6→7: (5860)/(1210)=1(58 - 60)/(12 - 10)=-1

    • คำนวณ MR\mathrm{MR}
      โดย MR=ΔTR/ΔQ\mathrm{MR} = \Delta\mathrm{TR}/\Delta Q

      • แถว 1→2: (200)/(20)=10(20 - 0)/(2 - 0)=10

      • แถว 2→3: (3620)/(42)=8(36 - 20)/(4 - 2)=8 ดังนั้น F=8F = 8

      • แถว 3→4: (4836)/(64)=6(48 - 36)/(6 - 4)=6

      • แถว 4→5: (5648)/(86)=4(56 - 48)/(8 - 6)=4 ดังนั้น E=4E = 4

      • แถว 5→6: (6056)/(108)=2(60 - 56)/(10 - 8)=2

      • แถว 6→7: (6060)/(1210)=0(60 - 60)/(12 - 10)=0

    • สรุปค่า A,B,C,D,E,F

      • A = 4

      • B ≈ 3.17

      • C = 10

      • D = 12

      • E = 4

      • F = 8

    • เงื่อนไขกำไรสูงสุด (MR = MC)
      เปรียบเทียบตาราง MR กับ MC:

      • Q=2: MR(10)>MC(0) → ควรเพิ่ม Q

      • Q=4: MR(8)>MC(2.5) → ควรเพิ่ม Q

      • Q=6: MR(6)>MC(2) → ควรเพิ่ม Q

      • Q=8: MR(4)=MC(4) → จุดกำไรสูงสุด

      • Q>8: MR<MC → ควรลด Q

      ดังนั้นปริมาณผลิตเพื่อกำไรสูงสุดคือ <<|Q^=8|>> หน่วย และราคา <<|P^=7|>>


    Answer
    A = 44
    B ≈ 3.173.17
    C = 1010
    D = 1212
    E = 44
    F = 88

    ปริมาณผลิตกำไรสูงสุด <<|Q^=8|>> หน่วย (ที่ <<|P^=7|>>)

  • ข้อมูลนำเข้า

    ◦ กราฟ "Pareto Efficiency" อธิบายดังนี้: ▪ หากเริ่มต้นที่ จุด A ▪ จุด C คือการปรับปรุงแบบพาเรโตที่ทำให้ Maka ดีขึ้น ▪ จุด D คือการปรับปรุงแบบพาเรโตที่ทำให้ Susan ดีขึ้น ▪ จุด E คือการปรับปรุงแบบพาเรโตที่ทำให้ทั้งคู่ดีขึ้น ◦ Contract Curve (เส้นสัญญา): หากนำจุดที่มีประสิทธิภาพแบบพาเรโตที่เป็นไปได้ทั้งหมดมารวมกัน จะเกิดเป็น "เส้นสัญญา" ▪ ตามเส้นสัญญา เส้นความพึงพอใจที่ไม่ต่างกัน (indifference curves) ของแต่ละบุคคลจะ "สัมผัสกัน" (tangent) ▪ เงื่อนไขประสิทธิภาพแบบพาเรโตคือ อัตราการทดแทนหน่วยสุดท้าย (Marginal Rate of Substitution, MRS) ของบุคคลทุกคนจะต้องเท่ากัน (MRS_A = MRS_B) และเท่ากับอัตราส่วนราคาของสินค้า (Px/Py) ▪ นอกจากนี้ ในภาวะที่มีประสิทธิภาพ อัตราการทดแทนทางเทคนิคหน่วยสุดท้าย (Marginal Rate of Transformation, MRT) ในการผลิตสินค้า ควรเท่ากับ MRS ของผู้บริโภค ในกรณีการจัดการกับของเสีย (Pollution): หลักการจัดการที่มีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจมีความซับซ้อนในกรณีของเสีย (มลพิษ) เนื่องจากมลพิษเป็น "ผลกระทบภายนอกเชิงลบ" (negative externality) ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของความล้มเหลวของตลาด (market failure) โดยที่ผู้ผลิตไม่ได้แบกรับต้นทุนเต็มที่ของการผลิตสินค้า

    ผลลัพธ์

    [Analysis]
    ปัญหานี้เป็นปัญหาเศรษฐศาสตร์จุลภาคในหัวข้อประสิทธิภาพแบบพาเรโตและการจัดการมลพิษ ซึ่งต้องใช้แบบจำลองกล่องเอ็ดจ์เวิร์ธ (Edgeworth Box) เพื่ออธิบาย Contract Curve และหลักการหาค่า Marginal Rate of Substitution และ Marginal Rate of Transformation จากนั้นจึงขยายไปสู่กรณีภายนอกเชิงลบของมลพิษโดยใช้ทฤษฎีภาษีปิโกเวียน (Pigouvian Tax) หรือทฤษฎีโคส (Coase Theorem) เพื่อหามาตรการแก้ปัญหา

    Approach
    – ใช้กล่องเอ็ดจ์เวิร์ธอธิบายจุดพาเรโต เรียกเงื่อนไขค่าสัมประสิทธิ์การทดแทนหน่วยสุดท้ายเท่ากันของแต่ละบุคคล
    – หาสมการ Contract Curve จากเงื่อนไข MRSA=MRSBMRS_A = MRS_B
    – เชื่อมโยงกับการผลิตโดยกำหนด MRS=MRTMRS = MRT
    – วิเคราะห์กรณีมลพิษในแง่ภายนอกเชิงลบและเสนอวิธีแก้ปัญหาโดยกำหนดภาษีเท่ากับความเสียหายส่วนเพิ่ม

    [Solution]
    Step 1 กำหนดเงื่อนไขประสิทธิภาพแบบพาเรโต
    – ประสิทธิภาพพาเรโตเกิดขึ้นเมื่อไม่มีใครสามารถปรับปรุงประโยชน์ได้โดยไม่ลดประโยชน์ของอีกฝ่าย
    – ในกล่องเอ็ดจ์เวิร์ธ จุดพาเรโตคือตำแหน่งที่เส้นความพึงพอใจของผู้บริโภคสัมผัสกันแบบแตะกัน

    Step 2 หาค่า Contract Curve
    – ให้ผู้บริโภคสองคน A และ B มีเส้นความพึงพอใจ U_A(x,y) และ U_B(x,y)
    – เงื่อนไขแตะกันคืออัตราทดแทนหน่วยสุดท้ายเท่ากัน
    MRSA=UA/xUA/yMRS_A = \frac{\partial U_A/\partial x}{\partial U_A/\partial y}
    MRSB=UB/xUB/yMRS_B = \frac{\partial U_B/\partial x}{\partial U_B/\partial y}
    – Contract Curve จากการแก้ MRSA=MRSBMRS_A = MRS_B

    Step 3 เชื่อมโยงกับการผลิต
    – ในระบบเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ สินค้าผลิตด้วยเทคโนโลยี MRT
    MRT=MPxMPyMRT = \frac{MP_x}{MP_y}
    – เงื่อนไขสุดท้ายเพื่อความสมดุลคือ MRSA=MRSB=MRTMRS_A = MRS_B = MRT

    Step 4 วิเคราะห์ภายนอกเชิงลบของมลพิษ
    – มลพิษเป็นต้นทุนที่ผู้ผลิตไม่รับผิดชอบเต็มที่ก่อให้เกิด Market Failure
    – ความเสียหายส่วนเพิ่ม (Marginal Damage) คือต้นทุนสังคมที่เพิ่มเมื่อตามปริมาณมลพิษ
    – วิธีปิโกเวียนกำหนดภาษีต่อมลพิษเท่ากับความเสียหายส่วนเพิ่ม
    t=MDt = MD เพื่อให้ผู้ผลิตรับต้นทุนสังคมเต็มที่จนจุดสมดุลใหม่ตรงกับจุดที่สังคมมีประสิทธิภาพสูงสุด

    Step 5 สรุปมาตรการ
    – หากใช้ Pigouvian Tax ตลาดจะสร้างผลิตภัณฑ์ตรงกับเงื่อนไข MPC+t=MSCMPC + t = MSC
    – หรือถ้าพัฒนา Coase Theorem ให้มีการเจรจาสิทธิ์มลพิษ ตลาดจะหาจุดตกลงพาเรโตได้หากเจรจาได้ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเจรจา

    [Answer]
    เงื่อนไขประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจแบบพาเรโตโดยสรุปคือ
    MRSA=MRSB=MRTMRS_A = MRS_B = MRT
    และในกรณีมีมลพิษถ้าต้องการให้ตลาดมีประสิทธิภาพทางสังคมต้องกำหนดภาษี tt เท่ากับความเสียหายส่วนเพิ่มของมลพิษ
    t=MDt = MD

    มาตรการนี้จะทำให้ต้นทุนส่วนเพิ่มของผู้ผลิตเท่ากับต้นทุนสังคมส่วนเพิ่ม (MPC+t=MSCMPC + t = MSC) จึงแก้ไขปัญหา externality ให้เกิดประสิทธิภาพแบบพาเรโตได้

  • ข้อมูลนำเข้า

    ◦ กราฟ "Pareto Efficiency" อธิบายดังนี้: ▪ หากเริ่มต้นที่ จุด A ▪ จุด C คือการปรับปรุงแบบพาเรโตที่ทำให้ Maka ดีขึ้น ▪ จุด D คือการปรับปรุงแบบพาเรโตที่ทำให้ Susan ดีขึ้น ▪ จุด E คือการปรับปรุงแบบพาเรโตที่ทำให้ทั้งคู่ดีขึ้น ◦ Contract Curve (เส้นสัญญา): หากนำจุดที่มีประสิทธิภาพแบบพาเรโตที่เป็นไปได้ทั้งหมดมารวมกัน จะเกิดเป็น "เส้นสัญญา" ▪ ตามเส้นสัญญา เส้นความพึงพอใจที่ไม่ต่างกัน (indifference curves) ของแต่ละบุคคลจะ "สัมผัสกัน" (tangent) ▪ เงื่อนไขประสิทธิภาพแบบพาเรโตคือ อัตราการทดแทนหน่วยสุดท้าย (Marginal Rate of Substitution, MRS) ของบุคคลทุกคนจะต้องเท่ากัน (MRS_A = MRS_B) และเท่ากับอัตราส่วนราคาของสินค้า (Px/Py) ▪ นอกจากนี้ ในภาวะที่มีประสิทธิภาพ อัตราการทดแทนทางเทคนิคหน่วยสุดท้าย (Marginal Rate of Transformation, MRT) ในการผลิตสินค้า ควรเท่ากับ MRS ของผู้บริโภค ในกรณีการจัดการกับของเสีย (Pollution): หลักการจัดการที่มีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจมีความซับซ้อนในกรณีของเสีย (มลพิษ) เนื่องจากมลพิษเป็น "ผลกระทบภายนอกเชิงลบ" (negative externality) ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของความล้มเหลวของตลาด (market failure) โดยที่ผู้ผลิตไม่ได้แบกรับต้นทุนเต็มที่ของการผลิตสินค้า
    ขอเป็นรูปกราฟ

    ผลลัพธ์

    [Analysis]
    โจทย์นี้เป็นการอธิบายแนวคิดเรื่องประสิทธิภาพแบบพาเรโต (Pareto Efficiency) ในบริบทของการจัดสรรทรัพยากรระหว่างผู้บริโภคสองคน (Maka และ Susan) และขยายไปถึงการจัดการกับภาวะมลพิษ (Pollution) ซึ่งเป็นลักษณะของผลกระทบภายนอกเชิงลบ (negative externality) จึงต้องประยุกต์ใช้ทฤษฎี Edgeworth Box, Contract Curve, MRS (อัตราทดแทนหน่วยสุดท้าย), MRT (อัตราทดแทนทางเทคนิคหน่วยสุดท้าย) และแนวทางแก้ไขปัญหาด้วย Pigouvian Tax หรือ Coase Theorem

    Approach

    • วาด Edgeworth Box เพื่อแสดงการจัดสรรสินค้า X และ Y ระหว่าง Maka กับ Susan

    • หา MRS ของแต่ละบุคคล MRS=MUxMUyMRS=\frac{MU_x}{MU_y}

    • หา Contract Curve จากเงื่อนไข MRSMaka=MRSSusanMRS_{Maka}=MRS_{Susan}

    • นำเส้น Production Possibility Frontier (PPF) มาใช้ และตั้งเงื่อนไข MRS=MRTMRS = MRT เพื่อประสิทธิภาพรวม

    • ขยายไปที่กรณีมลพิษ โดยแสดง Supply (ต้นทุนส่วนตัว), Demand, Marginal Social Cost (MSC) และหา Pigouvian Tax เพื่อลด Deadweight Loss


    [Solution]

    Step 1: วาด Edgeworth Box
    • แกนนอนแทนปริมาณสินค้า X ของทั้งสองคน (Maka ทางซ้าย–Susan ทางขวา)
    • แกนตั้งแทนสินค้า Y (Maka ที่มุมล่างซ้าย–Susan ที่มุมบนขวา)

    Step 2: กำหนดฟังก์ชันอรรถประโยชน์
    สมมุติ
    • Maka: UM(xM,yM)U_M(x_M,y_M)
    • Susan: US(xS,yS)U_S(x_S,y_S)

    Step 3: หาค่า MRS
    MRS คืออัตราทดแทนหน่วยสุดท้ายของ X กับ Y
    MRSM=UM/xMUM/yMMRS_M = \frac{\partial U_M/\partial x_M}{\partial U_M/\partial y_M}
    MRSS=US/xSUS/ySMRS_S = \frac{\partial U_S/\partial x_S}{\partial U_S/\partial y_S}

    Step 4: หา Contract Curve
    เงื่อนไขประสิทธิภาพแบบพาเรโตใน Edgeworth Box คือ
    MRSM=MRSSMRS_M = MRS_S

    • ตั้งสมการ MUxMMUyM=MUxSMUyS\frac{MU_{x_M}}{MU_{y_M}} = \frac{MU_{x_S}}{MU_{y_S}}

    • แก้หารูปสมการที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่าง xMx_M และ yMy_M (หรือ xSx_S และ ySy_S)

    • จุดทุกจุดบนเส้นนี้คือส่วนผสมการจัดสรรที่ไม่มีใครปรับปรุงได้อีกโดยไม่ทำลายอีกฝ่าย

    Step 5: เพิ่ม PPF และ MRT

    • วาดเส้น Production Possibility Frontier (PPF) แสดงขอบเขตการผลิต X vs Y

    • หา MRT จาก PPF
      MRT=dYdXPPFMRT = -\frac{dY}{dX}\bigg|_{PPF}

    • เงื่อนไขสมดุลเชิงสังคม:
      MRSM=MRSS=MRTMRS_M = MRS_S = MRT
      จึงได้จุดที่เป็นทั้ง Pareto Efficient และผลิตในระดับที่สอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภค

    Step 6: กรณีมีมลพิษ (Negative Externality)

    • ผู้ผลิตมีต้นทุนส่วนตัว (Private Marginal Cost, PMC) และต้นทุนสังคม (Marginal Social Cost, MSC)

    • ปกติตลาดสมดุลที่ PMC = Demand ⇒ Q_market, P_market

    • ต้นทุนสังคมสูงกว่า ⇒ MSC > PMC

    • จุดสมดุลทางสังคมสอดคล้องที่ MSC = Demand ⇒ Q* (น้อยกว่า Q_market)

    • Deadweight Loss เกิดจากพื้นที่สามเหลี่ยมระหว่าง PMC, MSC และ Demand

    Step 7: ใช้ Pigouvian Tax
    คิดภาษี tt เท่ากับความแตกต่างระหว่าง MSC กับ PMC ที่ปริมาณ Q*
    • ทำให้ผู้ผลิตแบกรับต้นทุนเต็มที่ ⇒ PMC + t = MSC
    • ตลาดจะผลิตที่ Q* และ P* ⇒ ลดมลพิษและ Deadweight Loss

    กราฟประกอบ (อธิบาย)

    • Edgeworth Box: มีจุด A (ไม่ efficient), C (ปรับปรุง Maka ดีขึ้น), D (ปรับปรุง Susan ดีขึ้น), E (ปรับปรุงทั้งคู่)

    • Contract Curve: เส้นโค้งจากมุมล่างซ้ายไปมุมบนขวาในกล่อง

    • PPF กับ Indifference Curves: จุดสัมผัสบน PPF เป็นจุดสมดุลสังคม

    • กรณีมลพิษ: แกนนอน Q, แกนตั้งราคา; วาด Demand, PMC, MSC แล้วแสดง Q_market vs Q* และ Deadweight Loss

    [Answer]
    สรุป
    • จุดบน Contract Curve ทำให้ MRSM=MRSSMRS_M = MRS_S ⇒ ประสิทธิภาพแบบพาเรโต
    • จุดสมดุลเชิงสังคมต้องมี MRS=MRTMRS = MRT ⇒ ผลิตสอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภค
    • เมื่อมีมลพิษ ตลาดปกติผลิตเกิน ⇒ ใช้ Pigouvian Tax t=MSCPMCt = MSC-PMC เพื่อให้เกิดสมดุลที่ Q* ลด Deadweight Loss และภาระมลพิษลง

    จบบริบูรณ์ครับ

ดูเทมเพลตอื่นๆ เหล่านี้See all

ตัวแก้ปัญหาเคมี

ช่วยเหลือปัญหาเคมีและให้วิธีแก้ไข

ตัวแก้โจทย์คณิตศาสตร์

แก้โจทย์คณิตศาสตร์ได้อย่างง่ายดายทีละขั้นตอนพร้อมคำอธิบายอย่างละเอียด อัปโหลดรูปภาพโจทย์คณิตศาสตร์ของคุณหรือพิมพ์เข้าไป แล้วรับคำตอบที่ชัดเจนและรวดเร็ว เหมาะสำหรับนักเรียนและทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือทางคณิตศาสตร์ที่รวดเร็วและแม่นยำ

ตัวแก้โจทย์บัญชี

แก้โจทย์บัญชีทีละขั้นตอนพร้อมคำอธิบายที่ชัดเจน อัปโหลดรูปภาพโจทย์บัญชีของคุณหรือพิมพ์เข้าไป แล้วรับคำตอบที่ถูกต้องทันที เหมาะสำหรับนักเรียนและมืออาชีพที่ต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับแนวคิดบัญชี การคำนวณ และการบันทึกบัญชี

ตัวแก้โจทย์สถิติ

แก้โจทย์สถิติทีละขั้นตอนพร้อมคำอธิบายที่ชัดเจน อัปโหลดรูปภาพโจทย์สถิติของคุณหรือพิมพ์เข้าไป แล้วรับคำตอบที่ถูกต้องทันที เหมาะสำหรับนักเรียนและมืออาชีพที่ต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับแนวคิดสถิติ การคำนวณ และการวิเคราะห์ข้อมูล

ตัวแก้ปริศนา

ไขปริศนาและรับคำอธิบายอย่างละเอียดสำหรับคำตอบ

เครื่องกำเนิดแบบกำหนดเอง

สร้างข้อความที่กำหนดเองสำหรับวัตถุประสงค์ใดก็ได้

คำบรรยายโพสต์ Instagram

สร้างคำบรรยายสำหรับโพสต์ Instagram

เครื่องเขียนย่อหน้า

สร้างย่อหน้าด้วยการคลิกปุ่มเพียงครั้งเดียว!

เครื่องกำเนิดหัวข้อ

ทำให้หัวข้อข่าวของคุณโดดเด่นด้วยเครื่องกำเนิดหัวข้อของเรา!

เขียนเหมือนเจ้าของภาษา

การเขียนที่ชัดเจน กระชับ และแท้จริงที่สื่อสารข้อความของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เขียนเนื้อหาใหม่

ทำให้เนื้อหาของคุณโดดเด่นด้วยเครื่องมือเขียนเนื้อหาใหม่ที่ใช้งานง่าย

เครื่องมือสร้างข้อความด้วย AI

สร้างข้อความที่สร้างสรรค์และน่าสนใจสำหรับทุกวัตถุประสงค์ด้วยเครื่องมือสร้างข้อความที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของเรา

สร้างได้เร็วขึ้นด้วย AI
ลองใช้โดยไม่มีความเสี่ยง

หยุดเสียเวลาและเริ่มสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงทันทีด้วยพลังของ AI ที่สร้างสรรค์

App screenshot